วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559

การป้องกันและกำจัดไวรัส



หน่วยที่ 8
 
การป้องกันและกำจัดไวรัส



1.เพื่อให้ทราบความหมายและประเภทของไวรัส

ความหมายของไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์ (computer virus) หรือเรียกสั้นว่า ไวรัส คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บุกรุกเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ ส่วนมากมักจะมีประสงค์ร้ายและสร้างความเสียหายให้กับระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ

ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์

บูตไวรัส

 (boot virus) คือไวรัสคอมพิวเตอร์ที่แพร่เข้าสู่ เป้าหมายในระหว่างเริ่มทำการบูตเครื่อง ส่วนมาก มันจะติดต่อเข้าสู่แผ่นฟลอปปี้ดิสก์ระหว่างกำลังสั่งปิดเครื่อง เมื่อนำแผ่นที่ติดไวรัสนี้ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ไวรัสก็จะเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ตอนเริ่มทำงานทันที
บูตไวรัสจะติดต่อเข้าไปอยู่ส่วนหัวสุดของฮาร์ดดิสก์ ที่มาสเตอร์บูตเรคคอร์ด (master boot record) และก็จะโหลดตัวเองเข้าไปสู่หน่วยความจำก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไฟล์ไวรัส

 (file virus) ใช้เรียกไวรัสที่ติดไฟล์โปรแกรม เช่นโปรแกรมที่ดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต นามสกุล.exe โปรแกรมประเภทแชร์แวร์เป็นต้น

มาโครไวรัส

 (macro virus) คือไวรัสที่ติดไฟล์เอกสารชนิดต่างๆ ซึ่งมีความสามารถในการใส่คำสั่งมาโครสำหรับทำงานอัตโนมัติในไฟล์เอกสารด้วย ตัวอย่างเอกสารที่สามารถติดไวรัสได้ เช่น ไฟล์ไมโครซอฟท์เวิร์ด ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เป็นต้น

โทรจัน

 (Trojan) คือโปรแกรมจำพวกหนึ่งที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแอบแฝง กระทำการบางอย่าง ในเครื่องของเรา จากผู้ที่ไม่หวังดี ชื่อเรียกของโปรแกรมจำพวกนี้ มาจากตำนานของม้าไม้แห่งเมืองทรอยนั่นเอง ซึ่งการติดนั้น ไม่เหมือนกับไวรัส และหนอน ที่จะกระจายตัวได้ด้วยตัวมันเอง แต่โทรจัน (คอมพิวเตอร์)จะ ถูกแนบมากับ อีการ์ด อีเมล์ หรือโปรแกรมที่มีให้ดาวน์โหลดตามอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ใต้ดิน และสุดท้ายที่มันต่างกับไวรัสและเวิร์ม คือ มันจะสามารถเข้ามาในเครื่องของเรา โดยที่เราเป็นผู้รับมันมาโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง


2.เพื่อให้ทราบวิธีป้องกันสปายแวร์และซอลแวร์ที่ไม่พึงประสงค์


วิธีการป้องกัน สปายแวร์  เพื่อที่จะป้องกันการเข้ามาติดตั้งสปายแวร์อย่างไม่ได้ตั้งใจ แนะนําให้ปฏิบัติตามวิธีการ
 ดังนี้  - ไม่คลิ้กลิ้งบนหน้าต่างเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นมาอัตโนมัติหรือโฆษณาที่ป๊อบอัพขึ้นมา เพราะป๊อบอัพ เหล่าน้ันมัก
จะมีตัวสปายแวร์ฝังอยู่ การคลิ้กลิ้งเหล่านั้นจะทําให้สปายแวร์ถูกนําเข้ามาติดตั้งบนเครื่องของคุณ ผ่านวินโดวส์ได้ในทันที โดยวิธีการปิดหน้าต่างป๊อบอัพเหล่านั้นควรคลิ้กที่ปุ่ม "X" บนแถบเมนู Title bar แทนที่จะปิดด้วยคําสั่ง close บนแถบแสดงเครื่องมือมาตรฐานของวินโดว์ (standard toolbar)  - ควรเลือกที่คําตอบ "No" ทุกครั้งที่มีคําถามต่างๆ ถามขึ้นมาจากป๊อบอัพเหล่านั้น คุณต้อง ระมัดระวังเป็นอย่างมากกับคําถามที่ปรากฏขึ้นมาเป็นไดอะล็อกบ็อกซ์ต่างๆ แม้ว่าไดอะล็อกบ๊อกซ์เหล่านั้นจะ
8
เกิดขึ้นตอนคุณกําลังรันโปรแกรมเฉพาะที่คุณจะใช้งาน หรือใช้โปรแกรมอื่นอยู่ก็ตาม ควรปิดหน้าต่างป๊อบอัพ เหล่านั้นด้วยวิธีคลิ้กที่ปุ่ม "X" บนแถบเมนู Title bar แทนที่จะปิดด้วยคําสั่ง close บนแถบแสดงเคร่ืองมือ มาตรฐานของวินโดว์ (standard toolbar)  - ควรระมัดระวังอย่างมากในการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่จัดให้ดาวน์โหลดฟรี เพราะมีหลายเว็บไซต์ ที่ จัดหาแถบเครื่องมือแบบที่ให้ผู้ใช้ปรับแต่งเองหรือมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่เหมาะสําหรับผู้ใช้ให้ปรับแต่งเองไว้ให้ ดาวน์โหลดบนอินเทอร์เน็ต สําหรับท่านที่ต้องการใช้คุณสมบัติของเครื่องมือเหล่านี้ ไม่ควรจะดาวน์โหลด เครื่องมือเหล่านี้มาจากเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ และต้องตระหนักเสมอว่ามันเป็นการปล่อยให้สปายแวร์ผ่านเข้า มายังเครื่องคุณได้ด้วย  - ไม่ควรติดตามอีเมล์ลิ้งที่ให้ข้อมูลว่ามีการเสนอซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์ เหมือนกับอีเมล์ที่ให้ ข้อมูลว่ามีการเสนอซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ซึ่งอันที่จริงลิ้งเหล่านั้นจะนําไปสู่แนวทางที่ตรงกันข้าม คือเป็นการ ถามเพื่อให้คุณคลิ้กอนุญาตให้สปายแวร์เขา้มาดําเนินการติดตั้งในเครื่องโดยไม่ถูกขัดขวาง วิธีการป้องกนั ไวรัสคอมพิวเตอร์ วิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ คือ ให้ติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแล้วทําการ อัพเดทไวรสัอย่างสม่ําเสมอ และให้ทําการสแกนไวรสัเป็นประจํา โดยสแกนแบบ Full  - ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและอัปเดตข้อมูลไวรัสอยู่เสมอ - ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่เหมาะสมกบั OS ของเครื่อง - สร้างแผ่น Emergency Disc หรือแผ่น boot CD/USB เพื่อใช้ในการกู้ระบบ - อัปเดตข้อมูลไวรัสของโปรแกรมทุกวัน หรอื ทุกครั้งที่โปรแกรมแจ้งเตือนให้อัปเดต - เปิดใช้งาน auto-protect ถ้าโปรแกรมสนับสนุน - ตรวจสอบหาไวรัสทุกครั้งกอ่นเปิดไฟล์จากแผ่นหรือสื่อบันทึกข้อมูลตา่ง ๆ - ใช้โปรแกรมเพื่อทําการตรวจหาไวรัสบนเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1 ครั้ง ต่อสัปดาห์ 
ติดตั้งโปรแกรมอุดช่องโหว่(patch) โดยการอัปเดตซอฟต์แวร์และโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ ให้ ใหม่อยู่เสมอ - ระบบปฏิบัติการ(OS) Windows , โปรแกรม Internet Explorer (IE) และโปรแกรม Microsoft Office เป็นต้น 
ระวังภัยจากการเปิดไฟล์จากสื่อบันทึกข้อมูล(Media) ต่าง ๆ - เช่น แผ่นฟลอ็ปปี้ดิสก์ แผ่นซีดี แผ่นดีวีดี เทปแบ็กอัป หรอืไม่ทราบแหลง่ที่มา เป็นต้น - สแกนหาไวรัสจากสื่อบันทกึข้อมูล ก่อนใช้งานทุกครั้ง - ไม่ควรเปิดไฟล์ที่มีนามสกลุแปลก ๆ ที่นา่สงสัย เช่น .pifเป็นต้น รวมทั้งไฟล์ที่มีนามสกุลซ้อนกัน เช่น .jpg,.exe ,.gif.scr , txt.exe เป็นต้น ให้ลบไฟล์นั้นทิ้งทันที 


3.เพื่อให้ทราบวิธีป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์

หลักการทั่วไปของการป้องกนัมีดังนี้  - จํากัดสิทธิ์ของผู้ใช้ (Least user privilege) หมายถึงไม่ควรใช้ Admin account ในการใช้งาน คอมพิวเตอร์ เนื่องจากสิทธิ์ Admin เป็นสิทธิสูงสุดของคอมพิวเตอร์ เมื่อถูกไวรัสจู่โจมทําให้ไวรัสนั้นมีสิทธิ เทียบเท่า Admin ไปด้วย ดังนั้นในการใช้งานทั่วไป ควรตั้งผู้ใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนที่ใช้งานเครื่อง คอมพิวเตอร์นั้น เช่น ชื่อผู้ใช้ Kanyarat ที่มีสิทธิการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ใกล้เคียงกับสิทธิ Admin เป็น ต้น เมื่อถูกไวรัสจู่โจมสามารถกําจัดไวรัสไดง้่ายกว่า  - update Web browser บ่อยๆ รวมถึง update plugin  - update program สแกนไวรัสท่ีติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ตามระยะเวลา  - ติดตั้งโปรแกรมที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง  - ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส สปายแวร์ มัลแวร์ โดยเฉพาะโปรแกรมป้องกันไวรัสเพียงอย่างใดอย่าง หนึ่งเท่าน้ัน เพื่อป้องกันการทํางานข้าลงของเครื่องคอมพิวเตอร์  - รหัสผ่านที่ใช้สําหรับเข้าใช้งานแต่ละโปรแกรมไม่ควรใช้รหัสเดียวกัน เพื่อป้องกันการถูกแฮ็ค  - ควรติดตั้งเฉพาะโปรแกรมที่จําเปน็สําหรับการปฏิบัติงานเท่านั้น  - เมื่อจะเข้าใช้เว็บไซต์ใดให้สังเกตชื่อเว็บไซต์ (URL เช่น http://www.it.chula.ac.th) ว่าแปลกไป จากเดิมหรือไม่ เพราะอาจจะเข้าเว็บไซต์ที่เป็นไวรัสได้ วิธีการป้องกัน


4.เพื่อให้ทราบโปรแกรมที่นิยมใช้ในการป้องกันไวรัส

1. AVG Antivirus Free Edition 2011: เป็นโปรแกรมที่สามารถป้องกันไวรัสและสปายแวร์ ตัวใหม่ๆ ได้ เช่น ไวรัสที่มากับ E-mail เพราะทุกวันนี้ไวรัสและสปายแวร์จะมีการอัพเดทความสามารถในการทำลายอยู่ตลอด ดังนั้นเราก็ควรอัพเดทโปรแกรมที่มีอยู่และอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ ของโปรแกรมอยู่ตลอดนะจ๊ะ ถ้ายังไม่มีโปรแกรมสแกนไวรัส ลองใช้โปรแกรมที่ติดอันดับต้นๆ ของการดาวน์โหลดอย่าง AVG Antivirus Free Edition 2011 มาลองใช้กันได้นะจ๊ะ
 
 
 
 
 
 
2. Avira AntiVir Personal Free Edition: สามารถกำจัดไวรัสได้มากว่า 300,000 ชนิด มีการอัพเดท ข้อมูลไวรัสในเครื่องของเราแบบอัตโนมัติ ทำให้โปรแกรมไม่ล้าหลัง และตามไวรัสตัวใหม่ๆ ได้ทัน โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นอินเทอร์เน็ต และชอบดาวน์โหลด ทั้งหลาย แต่บางทีเวลาที่เราสแกน โปรแกรมก็ชอบลบข้อมูลบางอย่างออกไปด้วย และไม่ค่อยซับพอร์ตโปรแกรมอื่นเท่าไหร่ค่ะ
 
 
 
 
3. Avast Free Antivirus: สามารถป้องกันไวรัส Spyware หรือ Malware ต่าง ๆ ที่แฝงตัวมากับเว็บไซต์ไม่ให้เข้ามาทำร้ายข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราได้ การสแกนสามารถสแกนได้ทั้งไฟล์ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และสแกนขณะที่บู๊ตเครื่องก็ได้ค่ะ โดยโปรแกรมจะตรวจจับไวรัสและกำจัดไวรัสให้ทันทีที่พบ และในปัจจุบันโปรแกรมสามารถรองรับภาษาได้มากกว่า 19 ภาษา เป็นโปรแกรมที่มี
ขนาดเล็ก กระทัดรัด สามารถใช้งานได้ง่าย ที่สำคัญไม่หนักเครื่องด้วยนะจ๊ะ
 
 
 


 
4. PC Tools AntiVirus Free: โปรแกรมนี้ก็จะช่วยป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไม่ให้ติดไวรัสได้ง่ายๆ ซึ่งเหมือนกับโปรแกรมสแกนไวรัสตัวอื่น ๆ สำหรับโปรแกรมนี้สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี แต่ขนาดของไฟล์อาจจะค่อนข้างใหญ่ และอาจทำให้หนักเครื่องอยู่บ้างนะค่ะ
 

 
 
 
5. Microsoft Security Essentials: สำหรับโปรแกรมนี้ เป็นโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบและกำจัดไวรัสหรือสปายแวร์ได้เกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าไวรัสจะเปลี่ยนสถานะในการเข้าถึงข้อมูลของเราเป็นอย่างไรก็ตาม โปรแกรมก็จะตรวจพบไวรัสได้อยู่ดี ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรมสแกนไวรัสลองโหลดโปรแกรมตัวนี้ไปใช้ดูนะคะ เพราะเป็นโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท Microsoft เองซึ่งน่าจะช่วยให้ผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ Windows อุ่นใจขึ้นได้อีกเยอะเลยค่ะ
ปล. อย่าลืมว่าในการติดตั้งโปรแกรมนี้  Windows ของคุณจะต้องเป็น Windows ที่ถูกลิขสิทธิ์ด้วยนะค่ะ
 




 
 
6. ThreatFire AntiVirus Free Edition: โปรแกรมป้องกันและกำจัดไวรัสตัวนี้มีความสามารถตรวจจับได้ทั้ง trojans, rootkits, hijackers, keyloggers และ Malware ตัวอื่นๆ แต่ว่าโปรแกรมสแกนไวรัสตัวนี้ไม่สามารถสแกนทีละ File หรือ Folder ได้ เพราะโปรแกรมจะบังคับให้สแกนทุกไดร์ฟพร้อมกันหมดค่ะ
 
 
 
7. Emsisoft Anti-Malware 5.0: สำหรับโปรแกรมนี้ เป็นโปรแกรมที่ช่วยป้องกันไวรัสโทรจันประเภท Back Orifice และโปรแกรมนี้ยังสามารถตรวจหาไวรัสที่แนบมากับ E-Mail ที่เป็นตระกูล ZIP, ARJ, CAB หรือไฟล์ที่มาจากการดาวน์โหลดได้เช่นกัน และในโปรแกรมนี้ยังสามารถสแกนตัวโทรจันและระบุข้อมูลของไวรัสโทรจันแต่ละประเภทได้อีกด้วยหากคุณต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับไวรัสโทรจันเหล่านี้ ถ้าใครคิดจะใช้โปรแกรมนี้คงต้องใช้เวลานานในการติดตั้ง เพราะโปรแกรมมีขนาดใหญ่พอสมควรค่ะ
 
 
 
 
 
 

8. Panda Cloud Antivirus Free: เป็นโปรแกรมที่มีขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์น้อย สำหรับโปรแกรมนี้สามารถใช้งานง่าย เพราะมีไอคอนเพียงไม่กี่ปุ่ม ในการทำงานของโปรแกรมนี้จะทำการอัพเดทอัตโนมัติเมื่อเราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถสแกนไวรัสตัวใหม่ๆ ได้ อีกทั้งยังสแกนรวดเร็ว
 
 
 
9. Multi Virus Cleaner 2009: โปรแกรมตัวนี้เป็นโปรแกรมเอนกประสงค์ที่สามารถตรวจจับและกำจัดไวรัสหรือสปายแวร์ได้ และสามารถอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสของตัวเองเพื่อให้โปรแกรมสามารถตรวจจับไวรัสชนิดใหม่ๆ ได้ โดยคุณสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมตัวนี้มาใช้งานได้หากเครื่องของคุณมีปัญหา นอกจากนี้โปรแกรมสแกนไวรัส Multi Virus Cleaner 2009 ยังสามารถตรวจพบไวรัสได้มากถึง 6,400 ประเภทในแบบต่างๆกันได้อย่างไม่มีปัญหา
 
 
 
 
 
10. Avast – Virus Cleaner and Worm Removal Tool: โปรแกรมนี้จะช่วยกำจัดไวรัส และหนอนต่างๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการลบจาก Registry หรือ Start up สำหรับข้อเสียของโปรแกรมนี้ คือไม่สามารถกำจัดไวรัสได้ทุกตัว ส่วนข้อดี คือ โปรแกรมนี้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งให้ยุ่งยาก เพียงแค่ดับเบิ้ลคลิกก็สามารถใช้งานได้ทันที และข้อดีอีกอย่าง โปรแกรมนี้สามารถพกพาได้ง่าย เพียงแค่เรา Save ใส่ Flash Drive ก็สามารถนำไปสแกนได้ทุกที่ค่ะ
 
 
 
 
 
 
แต่อย่าลืมนะว่า.!!! โปรแกรมเถื่อนทุกวันนี้เยอะมาก ซึ่งบางที่โปรแกรมเหล่านี้ก็อาจจะมีไวรัสแฝงตัวมาด้วย ดังนั้นเราควรเลือกโปรแกรมที่ถูกลิขสิทธิ์ และสามารถอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ได้อัตโนมัติ เพราะจะมีประสิทธิภาพมากกว่านะค่ะ
ข้อมูลอ้างอิงจาก download.cnet.com



เอกสารอ้างอิง

(มปป).ความหมายของไวรัสคอมพิวเตอร์(ออนไลน์).แหล่งที่มา:https://satitwatprasri.wordpress.com/about/.19 มกราคม 2559

Pang Poko.2553.รวม 10 โปรแกรมสแกนไวรัสที่มีคนโหลดเยอะ.แหล่งที่มา:http://www.techxcite.com/topic/4217.html. 19 มกราคม 2559



นางสาวสุนิษา นาคสระน้อย บช1/3 เลขที่ 19

นางสาวศิริรัตน์ ศรีขวัญม้า  บช1/3 เลขที่ 26














 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น